มหัศจรรย์ของเลข72

ขอบคุณ วีดีโอ ความรู้การลงทุนของ TSI

การคำนวณเพื่อให้ได้ผลตอบแทนเพิ่มเป็นเท่าตัวของเงินต้น เช่น อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน 10% นำเลข 72 มาหารด้วยอัตราผลตอบแทน จะได้เท่ากับ 7.2   หมายถึง ด้วยอัตราผลตอบแทนนี้ จะใช้เวลา 7.2 ปี จะได้ผลตอบแทนเพิ่มเป็นเท่าตัวของเงินต้น

ให้เงินทำงานแทนคุณ

ขอบคุณ วีดีโอ ความรู้การลงทุนของ TSI

การลงทุนคือรูปแบบหนึ่งของ  การให้เงินทำงานแทนคุณ ผลที่ได้จะออกมาในรูปแบบผลตอบแทนต่างๆ เช่น ดอกเบี้ย กำไร สิทธิพิเศษต่างๆ   ทั้งนี้การลงทุนทุกรูปแบบจะมีความเสี่ยงแฝงอยู่เสมอ จึงควรประเมินความสามารถในการยอมรับความเสี่ยงควบคู่กันไปด้วย

ศัตรูของเงินออม

ขอบคุณ วีดีโอ ความรู้การลงทุนของ TSI

ศัตรูของเงินออม ได้แก่ เงินเฟ้อ และ การไม่มีวินัยในการออม สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ โดยการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่มากกว่าเงินเฟ้อ    และสามารถปกป้องเงินออมได้ โดยการทำประกันไว้

เงินเฟ้อ ศัตรูตัวร้ายของเงินออม

ขอบคุณ วีดีโอ ความรู้การลงทุนของ TSI

ผลกระทบจาก อัตราเงินเฟ้อ ก็คือทำให้สินค้าราคาแพงขึ้น ถ้าราคาสินค้ามีอัตราการเพิ่มขึ้น 5% ต่อปี เงินที่เราออมและนำไปลงทุนจะได้ประโยชน์ หากอัตราผลตอบแทนเป็นบวก หากอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนของเราเป็น 2%ต่อปี เราก็จะมีภาระกับค่าสินค้าใหม่แค่ 3%   หากอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนของเราเป็น 10%ต่อปี เราก็จะไม่มีภาระกับค่าสินค้าใหม่ แถมยังมีกำไรเพิ่มขึ้นอีก 5% ทำให้เกิดผลดีกับเงินออมของเรามากขึ้นอีกด้วย

ออมก่อน รวยกว่า

ขอบคุณ วีดีโอ ความรู้การลงทุนของ TSI

ตัวอย่าง พลังของ เวลา และ ดอกเบี้ยทบต้น   ออมเงินปีละ 1,000 บาท ลงทุนอัตราผลตอบแทน 10% ต่อปี เริ่มออมตอนอายุ 15 ปี ออมถึงอายุ 30 ปี ระยะเวลาออม 15 ปี อายุครบ 60 ปี เงินออมจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.9 แสนบาท ถ้าเริ่มออมตอนอายุ 30 ปี ออมถึงอายุ 60 ปี ระยะเวลาออม 30 ปี อายุครบ 60 ปี เงินออมจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 แสนบาท

เพียงวันละ 15 บาท ก็มีเงินแสนได้

ขอบคุณ วีดีโอ ความรู้การลงทุนของ TSI

เพียงออมเงินวันละ 15 บาท เมื่อออมครบ 1 เดือน จะมีเงินออมครบ 450 บาท   นำเงินออมนี้ไปลงทุน อัตราผลตอบแทน 10% ต่อปี ทำแบบนี้ครบปี เงินออมจะเพิ่มขึ้นเป็น 5,900 บาท ภายใน 11 ปี เงินออมจะเพิ่มพูนขึ้นกลายเป็นเงินแสนได้สบายๆ

มีเงินออมมากเท่าไร จึงเรียกว่าพอ

ขอบคุณ วีดีโอ ความรู้การลงทุนของ TSI

เราควรมีการตรวจสอบสถานะเงินออมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เงินออมของเราสามารถมีมากพอเพื่อใช้จ่ายในยามเกษียณอายุ   สูตรการคำนวณง่ายๆก็คือ 1/10 X อายุ X รายได้ทั้งปี   ตัวอย่างเช่น 1/10 X อายุปัจจุบัน 50ปี X รายได้ทั้งปี 600,000บาท เท่ากับจำนวนเงินออมที่ควรมี (ณ. อายุ 50 ปี รายได้ทั้งปี 6 แสนบาท) เท่ากับ 3.6 แสนบาท

เพดานหนี้ : กฎ 10 - 20

ขอบคุณ วีดีโอ ความรู้การลงทุนของ TSI

การควบคุมปริมาณหนี้สินทั่วไป (ไม่รวมหนี้จากการผ่อนบ้าน) เพื่อให้เรายังคงมีความสามารถในการชำระคืนได้   ยอดรวมของหนี้ต่อเดือน ไม่ควรเกิน 10% ของรายรับหรือรายได้ตามปกติของเราเอง   หรือยอดรวมของหนี้ทั้งปี ไม่ควรเกิน 20% ของรายรับหรือรายได้ตามปกติของเราเอง

กลยุทธ์การออมเงินแบบ -10 +10

ขอบคุณ วีดีโอ ความรู้การลงทุนของ TSI

การออมเงิน แบบ -10 หมายถึง เมื่อมีรายได้เข้ามา ให้เก็บเงินไว้ 10%ของรายได้เป็นเงินออม ส่วนที่เหลือจึงจะนำไปใช้จ่ายได้ โดยดูรายการสิ่งที่จำเป็นก่อน  หลังจากนั้นถ้ายังมีเหลือก็สามารถนำไปใช้สนองความต้องการเพิ่มเติมได้   การออมเงิน แบบ +10 หมายถึง เมื่อมีรายจ่ายออกไป ให้เเก็บเป็นเงินออมไว้ 10%ของรายจ่ายนั้นๆ ทุกครั้งที่มีรายจ่ายออกไป ให้ทำในลักษณะเดียวกันนี้